ฟังเนื้อหาผ่าน Indybook’s Podcast


เมื่อผู้ประกอบการ ใช้งานเขียนเป็นเครืองมือในการสร้างธุรกิจเงินล้าน!!

ถ้าพูดถึงอาชีพนักเขียน ทำให้หลายคนคิดถึงนามสกุลของของอาชีพนี้คือ “นักเขียน ไส้แห้ง” แน่นอนว่าในความเป็นจริง ทุกอาชีพมีทั้งคนไส้เปียกและใส้แห้ง อาชีพนักเขียนก็เช่นกัน มหาเศรษฐีที่เป็นนักเขียนก็มีมากมาย อย่างเช่น เจ.เค.โรวลิ่ง ผู้ที่เขียนนิยายเยาวชนที่โด่งดังอย่างแฮรี่พอตเตอร์ มีมูลค่าผลงานอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ(32,000 ล้านบาท) อีกสักคนคือสตีเฟ่น คิง นักเขียนที่โด่งดังจากแนวสืบสวน สยองขวัญ วิทยาศาสตร์ ไซไฟ ซึ่งมีมูลค่าผลงานอยู่ที่ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ (12,800 ล้านบาท)

ส่วนนักเขียนเมืองไทยที่โด่งดัง และนักอ่านน่าจะรู้จักเป็นอย่างดีอย่างเช่น คุณสรกล อดุลยานนท์ ผู้ใช้นามปากกว่า หนุ่มมืองจันทร์ ที่มีผลงานการเขียนมากมายก่ายกอง หรืออีกคนนึงก็คือ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ ผู้ใช้นามปากกว่า นิ้วกลม ผมคิดว่าสองคนนี้น่าจะเป็นนักเขียนไส้เปียก เพราะมีผลงานขายดีมากมาย จริง ๆ แล้วยังมีหลายท่านนะครับแต่ผมขอยกตัวอย่างไว้แค่นี้ก่อน

มาดูสถิติจาก Se-ed book กันบ้าง พบว่า ตลาดหนังสือของไทยวางแผงเฉลี่ยวันละ 40 ปก เดือนหนึ่งก็วางแผงราว 1,200 ปกหรือปีละ 14,400 ปก (รวมหนังสือแปลต่างประเทศ) ซึ่งพบว่ามีนักเขียนเพียง 20% เท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับจากตลาดนักอ่าน ซึ่งหมายความว่า 80% ที่เหลือยังคงเป็นนักเขียนไส้แห้งนั่นเอง (ถ้าไม่ได้ทำอาชีพอื่นไปด้วยนะครับ)


หนังสือที่จะมาแนะนำในวันนี้ชื่อว่า Write and Grow Rich ชื่อภาษาไทย เขียนแล้วรวย
เขียนโดย อลินกา รุทโควสกา แปลโดย พร่างดาว นุประดิษฐ์

ผู้เขียนได้รวบรวมเบื้องหลังการทำงานของนักเขียนที่เป็นนักธุรกิจจำนวน 24 คน ซึ่งใช้หนังสือเป็นเครื่องมือในการสร้างธุรกิจอันมั่งคั่ง
อลินกา รุทโควสกา ได้เปลี่ยนหนังสือเล่มนึงของเธอกลายเป็นธุรกิจเงินล้านได้สำเร็จ ซึ่งเธอและนักเขียนอีก 23 คนได้บอกเล่าเรื่องราว ความรู้ที่สอดแทรกไว้มากมาย ว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้เช่นทุกวันนี้

นักเขียนแต่ละท่านจะมีการกระทำที่เป็นจุดร่วมที่ทำให้ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีจุดต่างบางส่วนสะท้อนให้เห็นว่าทุกความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จ

คำถามที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อให้นักเขียนเหล่านั้นตอบอย่างเช่น หากนักเขียนเหล่านี้เพิ่มเริ่มทำธุรกิจ พวกเขาจะทำในสิ่งที่ต่างไปจากตอนเริ่มต้นไหม , พวกเขาต่อสู้กับความรู้สึกท้อแท้ และแปลเปลี่ยนความรู้สึกนี้ให้เป็นพลังได้อย่างไร , กุญแจซึ่งนำไปสู่ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จโดยมีหนังสือเป็นตัวผลักดันคืออะไร เป็นต้น


ผมจะขอยกตัวอย่างบางส่วนที่ผมชื่นชอบมากเล่าให้ฟังนะครับ สำหรับผู้ที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรือผู้ที่ต้องการเป็นนักเขียนและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ซื้อหนังสือมาอ่านครับ

นักเขียนคนแรกที่ผมจะมาเล่าให้ฟังคือ “อดัม ฮัจ”

อดัมเป็นนักเขียนหนังสือขายดีติดอันดับหนึ่งของโลก เขียนเกี่ยวกับความเชื่อคริสเตียนกว่าร้อยเล่ม เขาติดท๊อปชาร์ตหนังสือแนวศาสนา นอกจากนั้นเขาก็ยังมีงานเขียนมากมายหลากหลายแนว รวมถึงนิยายและแนวธุรกิจ เขาได้จำหน่ายหนังสือไปทั่วโลกว่า 2,500,000 เล่ม

กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของเขาก็คือ เขารู้ว่านักอ่านต้องการอะไร ต้องการสิ่งนั้นด้วยวิธีไหน และสามารถเชื่อมโยงกับเขาได้อย่างไร เช่นการเลือกสรรถ้อยคำให้ตรงใจพวกเขาเป็นเรื่องสำคัญมาก เรียบเรียงถ้อยคำให้คนอ่านอยากเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองให้มากที่สุด ทำให้เขารู้สึกรักขั้นตอนต่าง ๆ ที่เรียนรู้ไปจากคุณ สุดท้ายแล้วพวกเขาจะรู้สึกขอบคุณและแชร์สิ่งที่อ่านให้กับคนอื่นต่อไป

นิสัยที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จคือการพยายามหาหนทางที่จะทำให้แต่ละชั่วโมงทำงานมีค่ามากที่สุด แทนที่จะเพิ่มชั่วโมงการทำงานเหมือนผู้คนส่วนใหญ่ การเพิ่มคุณค่าในแต่ละชั่วโมงทำงานจึงสำคัญมาก เพราะเวลาส่วนที่เหลือเขาจะได้มีเวลาในการทำสิ่งต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และได้สัมผัสกับชีวิตมากที่สุดเท่าที่มากได้


แม็ตต์ สโตน

เขาเริ่มต้นทำงานวิจัยด้านสุขภาพและโภชนาการ และเผยแพร่งานลงในบล็อกของเขา โดยไม่ได้มุ่มไปที่ผลกำไรตามแบบผู้ประกอบการเลย แต่เขาก็มีผู้ติดตามออนไลน์จำนวนมาก และตีพิมพ์หนังสือจนกลายเป็นนักเขียนที่มีหนังสือขายดีหลายเล่ม เป็นกลุ่มผู้นำที่มียอดขาดเกือบ 200,000 เหรียญต่อปี

เขาได้แนะนำว่า จงปฏิบัติต่อหนังสือเช่นเดียวกับการปฏิบัติต่องานที่สำคัญของชีวิต ทุ่มเทเวลา เงิน และการเตรียมพร้อมกับมันให้มาก เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกังวลในวินาทีที่กดปุ่มเผยแพร่ สิ่งใดก็ตามที่เราไม่ได้ทำด้วยใจรักและการทุ่มเทอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าย่อมเสี่ยงต่อความล้มเหลวอย่างที่สุด

มาร์ก กูเบอร์ติ

เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล ผู้ประกอบการและนักเขียนและรายการพอดแคสต์ ซึ่งเขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลในโซเชียลมีเดีย โดยมีผู้ติดตามมากว่า 500,000 คนจากทุกบัญชีรวมกัน

เขาให้คำแนะนำนักเขียนที่กำลังดิ้นรนอยู่ว่า ถ้าหากคุณกำลังดิ้นรน นั่นหมายความว่าคุณกำลังก้าวหน้า นักเขียนที่ประสบความสำเร็จทุกคน ล้วนเคยดิ้นรนในการพิมพ์หนังสือขายเองมาก่อนทั้งนั้น คุณอาจรู้สึกว่าต้องทุ่มแรงกายแรงใจมากมาย แต่ก็แค่ช่วงสั้นๆ และมันจะส่งผลดีต่อคุณให้เติบโตได้ในระยะยาว ถ้าหากปณิธานเริ่มสั่นคลอน ของให้ระลึกไว้ว่าหากคุณเอาแต่รักสบาย คุณจะต้องเจ็บปวดในภายหลัง


ซัมเมอร์ แทนเฮาเชอร์

ซัมเมอร์เป็นผู้ประกอบการต่อเนื่อง และเป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวเรื่องออนไลน์ เธอทำงานให้ผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจจำนวนหลายร้อยคนผ่านคอร์สออนไลน์ นอกจากนี้เธอยังก่อตั้งธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยงในท้องถิ่น ปัจจุบันมีลูกจ้างยี่สิบคนและมีลูกค้ากว่า 1,000 คน

เธอบอกว่า การตัดสินใจที่ดีที่สุดของเธอในฐานะผู้ประกอบการ ก็คือการสร้างธุรกิจที่เหมาะกับตัวเองขึ้นมา แต่มันอาจไม่เหมาะกับคนอื่นก็ได้ แม้ว่าจะมีหลายครั้งที่ออกจากวิถีชีวิตที่แท้จริงไปบ้าง และบางครั้งก็ปล่อยให้คนอื่นมามีอิทธิพลทำให้เผลอทำให้สิ่งที่ไม่ได้เหมาะสมกับตัวเอง สรุปคือการสร้างธุรกิจที่เหมาะกับกับตัวเองเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด


เอมี คอลลิน

เอมีเป็นประธานของ New   Books หนึ่งในเอเจนซี่ที่ทั้งขายและทำการตลาดให้หนังสือ ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เอมีและทีมของเธอได้ขายหนังสือไปกว่า 40 ล้านเล่มให้แก่ร้านหนังสือ ห้องสมุด และเครือข่ายร้านหนังสือ

เธอให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนักเขียนอาชีพคือ ทำไปเถอะ! ไม่ว่าจะยังไงคุณก็ต้องทนเห็นรีวิวในอเมซอนที่ได้น้อยกว่าห้าดาวอยู่ดี เพราะฉนั้นจงส่งต้นฉบับให้พวกเขารีวิวไปเถอะ ถ้าจะจัดปาร์ตี้เปิดตัวหนังสือ ก็จัดไปเถอะ คุณอาจจะกังวลเรื่องเงินที่จะใช้ในการโปรโมตและทำโฆษณาหนังสือ แต่ก็โปรโมตและทำโฆษณาไปเถอะ ถึงคุณจะกังวลว่าควรส่งคำขอให้บรรดานักข่าวและบล็อกเกอร์มาสัมภาษณ์คุณดีหรือไม่ สุดท้ายก็ขอให้ส่งคำขอนั้นไปเถอะ


เดบบี ดรัม

เป็นผู้สร้างเว็บไซต์ Book Review Targeter ที่เชื่องโยงกับรีวิวของอเมซอน
เดบบีเป็นนักการตลาดเต็มตัว เธอสร้างคอนเทนต์ นักเขียน และขายคอนเทนต์รวมทั้งวิดีโอมากมายในตลาดดิจิทัล

เธอเริ่มทำงาน 5-9 อย่างทั้งที่ยังทำงานประจำไปด้วย เพราะความจำเป็นทางการเงิน เวลาตั้งแต่สามทุ่มถึงตีห้าเป็นเวลาที่ต้องสร้างธุรกิจของตัวเอง มันเป็นเวลาที่ปลอดเจ้านาย และไม่ต้องทำงานรับใช้ใคร และเมื่อเริ่มเห็นความสำเร็จจากยอดขายและลิขสิทธิ์เล่มแรกที่เขียน เธอก็อยากออกไปทานมื้อเย็นด้วยสเต็กดี ๆ เพราะเธอรู้ว่าถ้าทำสำเร็จได้ครั้งหนึ่งแล้วย่อมมีครั้งต่อไป

การออกหนังสือไปแข่งขันกับคนอื่นคุณต้องรักษาคุณภาพให้โดดเด่นจะให้ข้อมูลพื้น ๆ ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเริ่มด้วยการสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีคุณภาพ ประการต่อมาคือการส่งต่อมูลค่าไปยังตลาดและลูกค้าเฉพาะกลุม

ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดจะดีกว่าทำทุกอย่างด้วยตนเอง จะช่วยให้ประสำเร็จมากกว่าด้วย

การแบ่งงานเป็นชิ้นเล็ก ๆ ได้ผลดีกับเธอ และเมื่อมีตารางก็ให้ยึดถือตามนั้น แม้ว่าบางวันจะลงนั่งลงเขียนด้วยความทรมานบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเรื่องราวอื่น ๆ เกิดขึ้นรอบตัวเต็มไปหมด เมื่อคนเป็นทั้งเจ้าของกิจการและนักเขียน คุณต้องทำงานทุกวันอยู่แล้ว ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเลิกทำไปเลยนั่นล่ะ

อีกสิ่งหนึ่งทีทำให้รู้สึกว่าต้องดิ้นรนจนเหนื่อย คือคุณไม่มีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดเดียวกันเลย เหตุผลที่จะทำให้ธุรกิจของคุณไปได้รุ่งคือ คุณต้องไร้คู่แข่ง แม้ว่าจะเขียนหนังสือที่อาจมีหัวข้อใกล้เคียง แต่พวกเขาอาจไม่ใช่คู่แข่ง เพราะคนส่วนใหญ่อ่านหนังสือในหัวข้อเฉพาะที่ตรงความสนใจของพวกเขา ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาซื้อหนังสือในหัวข้อนี้มาเล่มหนึ่งแล้ว พวกเขาจะไม่ซื้ออีก ในความเป็นจริงพวกเขาซื้อหนังสือในหัวข้อเดียวกันเล่มแล้วเล่มเล่า ซื้อสินค้าในหมวดหมู่เดียวกันซ้ำแล้วซ้ำอีก


ซูซาน ฟรีดมันน์

ซูซานเป็นโค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและด้านการพัฒนาตัวเอง ในฐานะที่เธอเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์เอวิรา เธอจึงทุ่มเทเวลาให้กับนักเขียนหนังสือแนวให้ความรู้ เพื่อให้พวกเขาได้รับการยอมรับในตลาดเฉพาะกลุ่ม

เธอให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการที่กำลังดิ้นรนว่า เธอได้แนะนำนักเขียนหลายร้อยคนมาเป็นเวลาหลายปี ความผิดพลาดสองข้อใหญ่ ๆ คือการขาดความชัดเจน และการไม่ยอมสละทั้งเงิน รวมทั้งเวลาในการทำการตลาด หากคุณไม่มีเวลาสำหรับทำการตลาด อีกไม่นานคุณก็จะมีเวลาเหลือเฟือให้ทำการตลาด ยอมลงทุนเวลาและเงินเพื่อมองหาความช่วยเหลือและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เถอะ


อลินกา รุทโควสกา

เธอเขียนหนังสือเล่มแรกในปี 2010 ซึ่งความสำเร็จของมันทำให้เธอออกจากงานประจำ เพื่อใช้วันเวลาไปกับการเดินทางรอบโลกและการเขียนหนังสือ

ในปี 2015 เธอได้ตีพิมพ์หนังสือเรื่อง How I Sold 80,000 Books และได้รับรางวัล จึงทำให้เธอได้รับการยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตีพิมพ์และขายหนังสือด้วยตัวเอง

เธอบอกว่าการตัดสินใจที่ดีที่สุดของเธอคือการไม่ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งในตอนแรกเธอไม่อยากลงทุนเพื่อขอความช่วยเหลือจากใครเลย เพราะคิดว่าสามารถทำทุกอย่างเองได้ แต่ไม่เลย แม้คุณจะสามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองแต่มันไม่เข้าท่าเลยที่จะทำอย่างนั้น

สิ่งที่นักเขียนทำอย่างแรกคือเขียนหนังสือที่กลั่นกรองออกมาจากใจของพวกเข้า โดยไม่ได้มองหาตลาดเฉพาะด้านก่อนจะเริ่มเขียนหนังสือให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของตลาดนั้น ๆ ไม่มีการวิจัยตลาดก่อนที่จะสร้างสรรค์สินค้าออกมา


โจทสนา รามาซันดรัน

เธอเป็นผู้ประกอบการที่ทำงานที่บ้านและเป็นแม่อีกด้วย การเดินทางสู่อิสรภาพของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอตัดสินใจว่าจะไม่เป็นลูกจ้างอีกต่อไป เธอเข้าใจว่าหากต้องการพบอิสรภาพที่แท้จริง เธอจำเป็นต้องสร้างรายได้แบบ Passive income ทางที่ดีที่สุดก็คือการสร้างธุรกิจออนไลน์

กุญแจที่ทำให้เธอประสำความสำเร็จ

ประการแรก : ความมุ่งมั่น
มุ่งมั่นที่จะไม่กลับไปเป็นลูกจ้างอีก การตัดสินใจมาเป็นผู้ประกอบการจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องทำ

ประการที่สอง : แน่วแน่
เธอตัดธุรกิจอื่น ๆ ออกหมด เหลือไว้แต่อันที่จะแน่วแน่กับมัน นั่นคือธุรกิจสิ่งพิมพ์ เธอทำสิ่งนั้นอย่างเดียวในสามปีที่ผ่านมา และมันก็ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

เธอได้ใช้เวลา พลังงาน และเงินลงทุนไปกับการทำคอนเทนต์มาร์เก็ตติง ทั้งในรูปแบบวิดีโอ พอดแคสท์ และการเขียนบล็อก ซึ่งเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดที่เธอเคยทำ เพราะคนส่วนใหญ่รู้จักเธอทางคอนเทนต์ จากนั้นก็เริ่มติดตาม และซื้อบริการจากเธอ


คริสเทน จอย ไลดิก

คริสเทนตัดสินใจ “ลาออก” เมื่อทำงานได้ 6 ปี และมาทำธุรกิจแรกของตัวเองโดยขายหินสัตว์เลี้ยง นับตั้งแต่ปี 2003 เธอก็กลายเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยเปลี่ยนความรักในการเขียนที่มีมาตลอดชีวิตให้กลายเป็นอาชีพที่สามารถสร้างเป็นธุรกิจได้

เธอเคยเป็นนักเขียน ไส้แห้ง มาก่อนเพราะส่วนใหญ่ เธอจะมองหนังสือเหมือนกับเครื่องมือทางธุรกิจที่จะมาสนับสนุนกิจการอื่นของเธออีกที มากกว่าจะมองว่าการทำหนังสือเป็นธุรกิจหลัก เธอเชื่อว่าเธอกลายเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จได้ ก็เพราะมีความสามารถในการสร้างธุรกิจด้วยหนังสือ

นิสัยของเธอค่อนข้างแตกต่างจากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จคนอื่น ๆ เช่นการ มีเวลาที่แน่นอนในการทำสิ่ง 1,2,3 ในตอนเช้า หรือจำกับการใช้โซเชียลมีเดียไว้แค่วันละ 10 นาที แต่เธอเป็นคนที่ชอบทำตามใจตัวเอง พัฒนานิสัยจากการพัฒนาความรู้สึก ต้องรู้สึกให้ได้ว่าอยากทำอะไรก่อนที่จะลงมือทำมันจริง ๆ

กรณีที่มีรายการการที่ต้องทำมากเกินไป จะกลับมาใส่ใจว่า “แล้วอะไรกันทำให้รู้สึกทำในตอนนี้” เมื่อค้นพบความต้องการของตัวเองได้เต็มที่แล้วก็เหมือนได้ชาร์จแบต ทำให้มีพลังงานมากขึ้น และสามารถกลับไปทำสิ่งที่อยู่ในใบรายการเดิมได้อีกครั้ง

ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเงินมากแค่ไหนในธนาคาร แม้ว่าเงินจะเป็นส่วนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญก็ตาม แต่มันคือตัวคุณเองที่ถูกหล่อหลอมด้วยประสบการณ์

ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การทำตามคำแนะนำของบรรดา กูรู ทั้งหลายที่บอกให้เขียนเอาใจตลาดอย่างเดียว..


เดเนียล ฮอลล์

เดเนียลเป็นนักเขียน นักพูด ผู้ให้คำปรึกษา โค้ช และผู้จัดรายการพอตแคสท์ Real Fast ทาง iTunes ที่ติดอันดับรายการยอดนิยม

เขาได้บอกว่า จงทำงานให้ดีที่สุด แต่อย่าพิถีพิถันมากเกินจนไม่ได้วางตลาด คุณควรมุ่งมั่นสู่ความยอดเยี่ยม ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบคือการรักษาสมดุล อะไรดีแล้วก็คือดี แล้ววางตลาดไปเลย หรือไม่ก็เริ่มโปรเจคต่อไป


จุดร่วมสำหรับนักเขียนทุกคุณที่ทำธุรกิจประสบความสำเร็จ

  • สร้างรายชื่ออีเมลเพื่อสามารถติดต่อโดยตรงกับผู้อ่านมีความสำคัญและถือเป็นขุมทรัพย์ของนักเขียน
  • เวลางานมากเกินไป พวกเขาก็จะเขียนทุกอย่างที่ต้องทำให้เสร็จ นั่นคือการแบ่งงานใหญ่ ๆ เป็นงานย่อยแล้วลงมือทำไปทีละอย่างทุกวันอย่างมีวินัย
  • การทำทุกอย่างด้วยตัวเองเป็นเรื่องหายนะ ควรทำในส่วนที่ตัวเองถนัดจะดีกว่า
  • บล็อก เว็บไซด์ หรือรายชื่ออีเมล มีความสำคัญเพราะเป็นพื้นที่ที่คุณเป็นเจ้าของ
  • การลงทุนในการทำการตลาดนั้นสำคัญมาก
  • ธุรกิจออนไลน์เป็นส่วนที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

อ้างอิง

  • หนังสือ Write and Grow Rich – เขียนแล้วรวย
  • 17 นักเขียนที่รวยระดับมหาเศรษฐี #นักเขียนรวยบอกด้วย https://www.dek-d.com/writer/38631/
  • นักเขียนไทยยุคดิจิตอล ยังคงไส้แห้งจริงหรือ? https://mgronline.com/live/detail/9580000085930