ฟังเนื้อหาผ่าน Indybook’s Podcast

ผู้ปกครองที่เก่งและถูกพูดถึงเป็นอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้น โจโฉ เล่าปี่ และซุนกวนจากยุคสามก๊ก ทั้งสามมีจุดเด่นด้านไหนบ้าง วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ


โจโฉ – ใช้อำนาจ

“ข้ายอมทำผิดต่อคนในใต้หล้า แต่ไม่ยอมให้คนในใต้หล้าผิดต่อข้า”
เป็นคำพูดที่สะท้อนความคิดของเขาได้อย่างแท้จริง

โจโฉเป็นผู้นำแบบอำนาจนิยม ใช้อำนาจเป็นและเด็ดขาด

มีคนเก่งมากมายเข้ามาทำงานกับโจโฉเหนือกว่าเล่าปี่และซุนกวน เพราะมีแนวโน้มที่จะเป็นใหญ่ในแผ่นดินได้มากที่สุด มีฮ่องเต้อยู่ในมือ ถือราชองค์การสั่งการได้ทั่วหล้า ใครเล่าจะไม่อยากอยู่ฝ่ายชนะใช่ไหมครับ

โจโฉเป็นผู้นำที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่ง เป็นอัจฉริยะแห่งยุคสามก๊ก เนื่องจากตั้งตัวมาได้ด้วยตนเองและสร้างซื่อเสียงมากมายไม่ว่าจะเป็นการปราบลิโป้ กำจัดอ้วนเสียว ฯลฯ ทำให้ลูกน้องทั่งฝ่ายบุ่นและฝ่ายบู้เชื่อมั่น ประกอบกับการชอบคนเก่งและมีศิลปะในการซื้อใจคนเหล่านั้นให้มาร่วมทำงาน โครงสร้างอำนาจจึงแน่นหนายากที่จะล้มได้ง่าย ๆ

โจโฉไม่ได้ใช้อำนาจเพียงอย่างเดียว ยังมีความสามารถด้วย กลยุทธ์ ยุทธศาตร์ การเมือง การปกครอง ถือเป็นคนสร้างรากฐานในการรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งครับ


ชุนกวน – เลือกใช้คน มองคนขาด

ถึงแม้ว่าซุนกวนจะขึ้นมาครองอำนาจหลังจากรุ่นพ่ออย่างซุนเกี๋ยนและพี่ชายอย่างซุนเซ็กวางรากฐานมาอย่างดีแล้ว แต่การรักษาสิ่งที่พ่อและพี่สร้างมาไม่ใช่เรื่องง่ายดังคำกล่าวที่ว่า “การสร้างกิจการนั้นยากแสนยาก แต่การรักษากิจการไว้ให้ได้นั้นยากยิ่งกว่า”

ซุนกวนขึ้นเป็นผู้ครองแคว้งตอนอายุ 18 ปี ต้องรับมือกับขุนนางเก่าแก่ที่ไม่มีความเชื่อใจเชื่อมั่นในซุนกวนมากนัก ถ้าซุนกวนไม่สามารถซื้อใจคนและพิสูจน์ตัวเองได้สุดท้ายจะไม่สามารถรักษาเกงจิ๋วไว้ได้ และรากฐานที่พ่อและพี่สร้างไว้คงพังทลาย

เป็นซุนกวนไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องเจอลูกน้องที่ฉลาดและบารมีเหนือกว่าอย่างจิวยี่ แถมยังคอยปีนเกลี่ยวไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าใดนัก จิวยี่ถือกำลังเกือบทั้งหมดของเกงจิ๋วไว้ พูดคำเดียวแม่ทัพทั้งหลายพร้อมจะบุกน้ำลุยไฟไปกับเขา

ซึ่งถ้าซุนกวนไม่รู้จักการใช้อำนาจค่อย ๆ สร้างฐานและคนของตัวเองขึ้นมาได้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นพระเจ้าเฮี้ยนเต้คนที่สอง มีแต่ชื่อว่าเป็นเจ้าเมืองเกงจิ๋วแต่ไม่มีอำนาจใด ๆ เลย

แต่ซุนกวนฉลาดกว่านั้น ถึงแม้ส่วนใหญ่จะใช้วิธีประนีประนอมเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จที่แท้จริง ซุนกวนใช้การเมืองเหนือการทหาร สร้างความชอบธรรม และเมื่อถึงเวลาที่จำเป็น ชุนกวนก็ใช้อำนาจอย่างเด็ดขาดเช่นกัน

คนที่ช่วยซุนกวนวางรากฐานที่สำคัญของเกงจิ๋วคือท่านโลซก โลซกเป็นคนที่มีบารมีมากและจงรักภักดี ถึงแม้ว่าในนิยายหรือในละครโลซกจะถูกวางตัวให้ด้อยกว่าความเป็นจริงมาก แต่แท้จริงแล้วโลซกไม่ได้มีปัญญาด้อยกว่าขงเบ้งและจิวยี่ในการปกครอง และเป็นนักกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม

ถึงซุนกวนจะรบไม่เก่งแต่มีความแหลมคมในการเลือกคนมาใช้งานเป็นอย่างมาก

กว่าซุนกวนจะสร้างและรวบรวมอำนาจขึ้นมาอย่างแท้จริงต้องใช้เวลาเป็น 10 หลังจากขึ้นครองแคว้น ถึงแม้ซุนกวนจะไม่ได้เก่งเรื่องการรบแต่ก็เป็นนักบริหาร นักกลยุทธ์ และนักการเมืองที่เก่งยิ่งนัก…


เล่าปี่ – ถือคุณธรรม

ผู้ที่ก้มหัวให้คนทั่วหล้าเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่

เล่าปี่ไม่ใช่คนอ่อนแอเขารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เล่าปี่ชูคุณธรรมเพื่อสร้างภาพให้ตรงข้ามกับโจโฉไว้เป็นจุดขาย ถ้านึกถึงเล่าปีก็นึกถึงคุณธรรม ส่วนโจโฉคือโจรถ่อย ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีใครดี 100% หรือเลว 100% ทุกคนจะมีดีเลวปะปนกันไปทั้งนั้น

เล่าปี่ซื้อใจเตียวหุยและกวนอูผ่านการสาบานร่วมเป็นพี่น้องเพื่อชักชวนมาทำงานใหญ่ ไปหาขงเบ้งที่กระท่อมถึง 3 ครั้ง 3 คราเพื่อชวนให้ขงเบ้งมาทำงานด้วย ซื้อใจเหล่าผู้กล้ามากมาย ชูธงคุณธรรมและปณิธานในการกอบกู้ราชวงฮั่น ดึงคนที่ไม่พอใจโจโฉและภักดีในฮั่นมาร่วมได้จำนวนมาก

หลังจากครอบครองเสฉวนก็มีความมั่นคงทางด้านทหาร เสบียง  ประชาชนหนุนทำให้ตั้งตัวเป็นใหญ่ได้

ไม่นานหลังจากที่กวนอูถูกสังหารด้วยมือของง่อก๊กของซุนกวน เล่าปี่ยกทัพไปแก้แค้นท่ามกลางการคัดค้านอย่างแข็งขันของขงเบ้งและจูล่ง แต่เล่าปี่กลับทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองไม่ฟังเสียงคัดค้านเอาอารมณ์เป็นใหญ่ และก็พ่ายแพ้ย่อยยับกลับมา ส่งผลร้ายเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้จ๊กก๊กเป็นผู้พ่ายแพ้ในที่สุด

การเอาเรื่องส่วนตัวมาใหญ่กว่าปณิธานของจ๊กก๊ก จึงทำให้เล่าปี่ไม่สามารถทำงานใหญ่รวบรวมแผ่นดินได้สำเร็จ

การถือคุณธรรมเป็นจุดเด่น ประกอบการกับการเป็นนักบริหารที่เก่ง มีความเป็นผู้นำสูง และก่อร่างสร้างตัวมาด้วยตัวเองจึงทำให้เล่าปี่สามารถตั้งตัวเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในยุคสามก๊กได้ครับ


การเป็นนักบริหาร นักกลยุทธิ์ นักการทหาร หรือนักปกครองที่เก่งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยประสบการณ์สั่งสมบารมีมากมาย ผ่านความล้มเหลว ความผิดพลาดมานับไม่ถ้วน ความผิดพลาดบางอย่างอาจส่งผลร้ายถึงขั้นชีวิต แต่ถ้าไม่ผิดพลาดเลยก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ การเรียนรู้คนอื่นโดยเฉพาะเรียนรู้จากผู้นำที่ชาญฉลาดจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเป็นบทเรียนให้ทุกความผิดพลาดของเราไม่เสี่ยงจนเกินไป

ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ทำอย่างไรให้มีกำลังเหลือพยุงตัวเองลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งครับ