พอพูดถึงความ Productive เรามักนึกถึงการทำงานได้เยอะ ๆ ในเวลาอันสั้น และงานที่ทำต้องออกมาดีด้วย ฟังแลวอาจดูย้อนแย้งนิดหน่อย

หนังสือเล่มนี้ได้พูดถึงวิธีพักผ่อนที่ทำให้เรามีความ Productive ในภาพรวมไม่ใช่เฉพาะเรื่องของการทำงานเพียงอย่างเดียวและไม่ใช่เฉพาะเรื่องการนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงตามที่พวกเรารู้กันอยู่แล้ว

อิเกโมโตะ คัตสึยุกิ ผู้เขียน เป็นที่ปรึกษาและกรรมการผู้จัดการบริษัท ปาจา โพส จำกัด และเขาได้เป็นประธานบริษัทเน็ตไพรซ์ และ บริษัท ดอกเตอร์ ซีลา เขาทุ่มเทการทำงานเพื่อพัฒนาบริษัททั้งสองจนสามารถเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ

อ่านสั้น ๆ สำหรับคนไม่มีเวลา
– หาความสนุกจากการทำงาน โดยทำงานให้เหมือนการเล่นเกมส์
– ไม่ควร “เปลี่ยนจากสิ่งที่รัก ให้เป็นงาน” เพราะทำให้เรานึกถึงแต่ผลกำไร
– คนทำงานเก่งมักตื่นเช้าในวันหยุดเพื่อทำงานอดิเรก เพราะว่ามันสนุก
– การสร้างนิสัยไม่ถอดใจง่าย ๆ ด้วยการตั้งเป้าหมายในการเล่นกีฬา
– ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นกีฬา ถ้าเราทำตามแผนที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัดเราจะประสบความสำเร็จ
– แต่ละวันเราไม่ได้เริ่มต้น “ในเช้าวันรุ่งขึ้น” แต่เริ่มต้นตั้งแต่ “คืนวันก่อนหน้า”
– ลองทำอะไรที่แตกต่างจากชีวิตประจำวันดูบ้าง
– เสื้อผ้าสื่อให้เห็นแนวคิดของผู้สวมใส่
– เนื่องจากคนที่ดูแลรองเท้าหรือกระเป๋าอย่างดีมักเป็นคนละเอียดรอบคอบจึงน่าจะมีนิสัยการทำงานที่ละเอียดรอบคอบเช่นกัน

34 วิธีพักผ่อน ของคน Productive

ผมจะขอเล่าในส่วนที่ผมประทับใจและคิดว่าเพื่อน ๆ สามารถนำไปใช้ในการใช้ชีวิตและการพักผ่อนอย่าง Productive ได้ครับ

บทที่ 1 แค่ใช้ วันหยุดอย่างมีประสิทธิภาพเราก็จะพัฒนาตัวเองได้เร็วขึ้น

คนที่ทำงานเก่งมักมีนิสัย “เต็มที่กับทุกสิ่ง” แม่จะไม่ใช่เรื่องของงานก็ตาม เช่นการไปเที่ยวก็มีผลต่อการทำงานด้วย

โดยเนื้อแท้ของงานไม่ใช่เรื่องสนุกเพราะไม่ว่างานไหนก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องความสำพันธ์ได้

โดยทั่วไปคนเรามักจะคิดว่าการทำงานให้เต็มที่และใช้เวลาวันหยุดในการพักผ่อน จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่แย่ที่สุด

วิธีรับมือกับความเครียดมี 2 วิธี
1. จัดการกับอารมณ์
2. จัดการกับปัญหา

คนทำงานเก่งจึงใช้เวลาในวันหยุดในการฝึกการเผชิญหน้ากับความเครียด คือการตั้งเป้าหมายในเรื่องเล่น ๆ และมีบทลงโทษให้ตัวเองหนัก ๆ หากทำไม่สำเร็จ

หาความสนุกจากการทำงานโดยการทำงานให้เหมือนการเล่นเกมส์ แม้เนื้อแท้ของงานจะไม่ใช่เรื่องสนุกแต่เราสามารถทำให้มันสนุกได้

ไม่ควร “เปลี่ยนสิ่งที่รักให้เป็นงาน” เพราะจะทำให้เรานึกถึงผลกำไร ดังนั้นควรทำสิ่งที่รักเพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียวจะดีกว่า

คนทำงานเก่งมักตื่นเช้าในวันหยุดเพื่อทำงานอดิเรกเพราะมันเป็นเรื่องสนุก มีการวางแผนสิ่งที่ต้องทำในวันหยุดก่อนการวางแผนการทำงาน และเตรียมการณ์สิ่งที่ต้องทำในวันหยุดล่วงหน้า


บทที่ 2 “ฝึกฝนจิตใจ” และ “สร้างนิสัยที่ดี” เพื่อรับมือความกดดันในการทำงาน

นิสัยที่ดีไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ต้องอาศัยการฝึกฝน

เช่นการสร้างนิสัยไม่ถอดใจง่าย ๆ ด้วยการตั้งเป้าหมายในการเล่นกีฬา โดยให้เต็มที่ทุกการแข่งขัน ในการเล่นกีฬาถ้าเราถอดใจเพราะเห็นว่าเป็นแค่เรื่องเล่น ๆ จะส่งผลให้เราติดนิสัยนี้ในการทำงานด้วย

พูดง่าย ๆ คือ “การไม่คิดถอดใจง่าย ๆ” เป็นสิ่งที่เราสามารถฝึกฝนได้ด้วยตนเอง

คนขี้กังวลควรฝึกฝนจิตใจด้วยการ “ตีก๊อฟ” นั่นเพราะก๊อฟเป็นกีฬาที่ “มีเวลาให้หยุดพัก” เพราะยิ่งคนคิดมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีความกังวลมากเท่านั้น

คนที่ประสำความสำเร็จ จะเปิดใจรับฟังคำแนะนำจากมืออาชีพ

การที่จดจ่อกับสิ่งที่ทำได้นานต้องอยุดพักบ้าง การผ่อนคลายจิตใจจะสามารถทำให้แสดงศักยภาพออกมาเต็มที่

การอ่านหนังสือทำให้ช่วยเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นมากยิ่งขึ้น เช่นอ่านนิยายทำให้เราละเอียดอ่อนต่อผู้คนในชีวิตจริง


บทที่ 3 “การเล่นกีฬา และการทำงานอดิเรก” มีส่วนช่วยให้พัฒนาทักษะการทำงาน

การวิ่งมารธร ต้องมีการวางแผน มีตารางฝึกซ้อมยังไงให้วิ่งได้สำเร็จ ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นกีฬา ถ้าเราทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัดเราจะประสบความสำเร็จ

คนไม่เก่งจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา ส่วนคนเก่งจะสงบนิ่งตั้งรับอย่างมีสติ การเคลื่อนไหวหรือหยุดนิ่ง เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ เวลาอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากทางที่ดีเราควร “สงบนิ่ง”

การเตรียมตัวจะส่งผลให้พฤติกรรมหรือแรงจูงใจในการทำบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไปอย่างมาก ถ้าเราเตรียมความพร้อม 80% เราก็จะเหลือเวลาในการทำงานเพียง 20% เท่านั้น


บทที่ 4 “การดูแลสุขภาพกาย” จะช่วยในการแสดงศักยภาพ ออกมาอย่างเต็มที่

สุขภาพกายจะขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวัน สิ่งสำคัญคือไม่กินอาหารที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

ซึ่งถ้าต้องการแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ในวันรุ่งขึ้น ก็ต้องอดทนต่อความหิวในคืนนี้ให้ได้ โดยไม่ควรกินอาหารเกิน 2 ทุ่มหลังจากนั้นควรดื่มแต่น้ำเปล่า

แต่ละวันเราไม่ได้เริ่มต้น “ในเช้าวันรุ่งขึ้น” แต่เริ่มต้นตั้งแต่ “ในคืนวันก่อนหน้า”

ทุ่มเททำให้สิ่งที่จำเป็นอย่างเต็มที่ในระยะเวลาสั้น ๆ เหมือนการฝึกกล้ามเนื้อให้ได้ผลดี ไม่ว่าจะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อหรือการทำสิ่งที่สำคัญคือการจดจ่อทุ่มเทเฉพาะสิ่งที่จำเป็น

สรุปคืออยากทำผลงานให้ได้ดีต้องพักผ่อนให้เต็มที่


บทที่ 5 “การท่องเที่ยว” ในแบบที่ช่วยเพิ่มทักษะการตลาดและความรู้

เสน่ห์ของการท่องเที่ยวคือการได้เจอสิ่งใหม่ ผมแทบไม่ไปเที่ยวสถานที่เดิมในวันหยุดเพราะนั้นไม่มีสิ่งใหม่ให้พบเจอ การได้พบเจอเรื่องปรกติของท้องถิ่นเท่ากับได้เจอเรื่องใหม่สำหรับตัวเอง โดยส่วนตัวผู้เขียนมักหลีกเลี่ยงสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม

การไปเที่ยวเพื่อสัมผัส “ประสบการณ์ ใหม่ ๆ ที่มีคุณค่า” ซึ่งต่างจากการใช้ชีวิตปรกติ การปรับตัวให้เข้ากับคนในท้องถิ่นและสำรวจท้องถิ่นในเชิงลึก ถือเป็นการฝึกตัวเองในมุมของลูกค้าได้ดีที่สุด

การเที่ยวหรือการทำงานต้องมีการวางแผนที่ดี คือการตั้งสมมุติฐานของสถานที่นั้น ๆ บางครั้งอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยถือเป็นโอกาสในการฝึกปรับตัวตามสถานการณ์

ลองทำอะไรที่แตกต่างจากกิจวัตรประจำวันดูบ้าง


บทที่ 6 เสื้อผ้าสื่อให้เห็นถึงแนวคิดของผู้สวมใส่

ให้ชุดสูทและชุดลำลองขนาดพอดีตัว ถ้าใส่ไม่พอดีตัวก็จะดูแย่ ชุดลำลองจะบ่งบอกรสนิยมของคนแต่ละคนอย่างชัดเจน ควรพิจารณาว่าชุดลำลองแบบไหนที่เข้ากับตัวเอง และควรขึ้นอยู่กับรสนิยมของคนนั้น ๆ ด้วย

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสะอาดของเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นชุดทางการหรือชุดลำลองความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ผู้บริหารจะเลือกเสื้อผาที่เสริมภาพลักษณ์ให้กับบริษัท เสื้อผ้าจะสื่อถึงแนวคิดของผู้สวมใส่

รองเท้าและกระเป๋าสามารถบ่งบอกถึงการใส่ใจในการทำงานและรองเท้าเป็นสิ่งที่บ่งบอก บุคลิก นิสัย และรสนิยมของผู้สวมใส่เหมือนคำกล่าวที่ว่า “มองรองเท้าก็รู้แล้วว่าเป็นคนเช่นไร” แต่ใจความสำคัญไม่ใช่เรื่องของรองเท้าแบรนด์เนม แต่อยู่ที่ “การดูแลรองเท้าอย่างดี” หรือไม่ตางหาก

เนื่องจากคนที่ดูแลรองเท้าหรือกระเป๋าอย่างดีมักเป็นคนละเอียดรอบคอบจึงน่าจะมีนิสัยในการทำงานที่ละเอียดรอบคอบเช่นกัน

นอกจากใส่ใจอุปกรณ์ที่ใช้ทำกิจกรรมในวันหยุดแล้วต้องไม่ละเลยอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานด้วย

“หากอยากรู้ว่านักกีฬาเก่งหรือไม่ก็ดูได้จากอุปกรณ์ที่ใช้ลงสนามของเขา”

รองเท้าและกระเป๋าถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในวันทำงานที่สำคัญสำหรับคนทำงาน การดูแลอุปกรณ์ที่ใช้ในวัยทำงาน ย่อมเป็นคนเก่งได้อย่างแน่นอน


เป็นยังไงบ้างครับสำหรับแนวคิดเรื่องการใช้เวลาในวันหยุดเพื่อความมีประสิทธิภาพในการทำงาน ชีวิตคนเราไม่สามารถแยกการทำงานและการพักผ่อนได้อย่างเด็ดขาดเพราะมีความเกี่ยวเนื่องของนิสัยในการทำกิจกรรมนั้น ๆ การตั้งใจทำงานอดิเรกจึงช่วยให้การทำงานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจริง ๆ

By Mr.Pop