เขียนโดย ทะคะฮิชิ มะชะฟุมิ
ผมเป็นคนหนึ่งที่มีการจดบันทึกได้แย่มาก ๆ สมุดบันทึกของผมจะเป็นสมุดบันทึกที่ค่อนข้างอุ้ยอ้ายขนาด A6 และผมก็ไม่ค่อยได้กลับไปอ่านในสิ่งที่จดไว้ เพราะว่ามันดูไม่น่าอ่านเอาเสียเลย และบางครั้งถ้าจำเป็นต้องกลับมาดูข้อมูลจริง ๆ กลับหาไม่เจอหรือใช้เวลานานในการหาข้อมูล
ทันทีที่ผมอ่านหนังสือเล่มนี้ ผมก็ได้เริ่มเปลี่ยนสมุดบันทึกและเปลี่ยนวิธีจดบันทึกของผมในทันที
เนื่องจากสมุดโน้ตที่มีเส้นทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้สามารถวาดกราฟ ตาราง แผนภูมิ หรือวาดรูปตามเส้นได้อย่างง่ายดาย สมุดโน้ตจึงไม่ใช่ “เครื่องมือ” สำหรับจดบันทึกแต่ยังซุกซ่อนพลังที่ทำให้เราเก่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
กฎ 3 ข้อในการจดโน้ต
- เปลี่ยนมาใช้สมุดกราฟ
–> ต้องมีขนาดอย่างน้อยกระดาษ A4 เพราะได้มุมมองที่กว้างและเป็นพื้นฐานของธุรกิจ หรือถ้าใช้สมุดโน้ต B5 ให้ใช้ 2 หน้าคู่ในการจดบันทึกต่อ 1 หัวข้อแทน - ใส่หัวเรื่อง
–> ให้เหมือนการพาดหัวข่าว ทำให้รู้เนื้อหาของแผ่นนั้น ๆ ง่ายต่อการค้นหาในภายหลัง - แบ่งเนื้อหาเป็น 3 ส่วน
–> เนื้อหา ,สาระสำคัญ ,สรุป
สมุดโน้ตแบ่งเป็น 3 ประเภท
- สมุดโน้ตช่วยจำ –> ใช้สำหรับการเรียน อบรม เพื่อนำมาใช้อ้างอิงภายหลัง
- สมุดโน้ตช่วยคิด –> ใช้สำหรับทำงานส่วนใหญ่จะเป็นการจดเพื่อคัดทิ้งหรือหาข้อสรุปแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ
- สมุดโน้ตช่วยถ่ายทอด –> จุดประสงค์เพื่อนำเสนอ เหมาะสำหรับผู้บริหารหรือผู้ที่ต้องอธิบายสิ่งต่างๆให้คนอื่นเข้าใจอย่างเป็นระบบ
สิ่งสำคัญอื่น ๆ ในการจดบันทึก
- ไม่จดทุกคำพูดหรือทั้งสไลด์ ให้วิเคราะห์สรุปเป็นคำพูดของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องอย่างดีเพราะได้ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์แล้ว
- เวลาจะเริ่มทำงานอะไรเช่นการทำงานนำเสนอใน Power Point ให้เริ่มต้นกระบวนการคิดที่กระดาษไม่ใช่คอมพิวเตอร์
สรุปหลังจากที่ได้เปลี่ยนมาใช้สมุดโน้ตแบบกราฟ
- การเรียบเรียงข้อมูลดีขึ้น
- การบันทึกเป็นระเบียบสวยงามง่ายต่อการกลับมาอ่านในภายหลัง
- สนุกและมีความสุขกับการบันทึกสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น
- สามารถ Scan เก็บไว้อ้างอิงหรือนำเสนอได้ในทันที
- มีสมาธิจดจ่อกับงานที่ทำมากขึ้นเพราะไม่มีการแจ้งเตือนต่าง ๆ มารบกวนเหมือนการจดในมือถือหรือคอมพิวเตอร์
ยังไงก็ตามการบันทึกที่ดีเป็นทักษะที่ต้องอาศัยการฝึกฝน หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ควรอ่านและเอาไปลงมือปฏิบัติเป็นอย่างยิ่งจะช่วยให้คุณ Productive ขึ้นอย่างแน่นอน