52 วิธีตัดสินใจ ไม่ให้ผิดพลาด (The Art of Thinking Clearly 2)
เขียนโดย Rolf Dobelli

เราเชื่อว่าการตัดสินใจในแต่ละครั้งของเราเต็มไปด้วยเหตุและผล แต่ในความเป็นจริงแล้วเกือบทุกการตัดสินใจล้วนเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก หนังสือเล่มนี้จะแสดงตัวอย่างเหตุการณ์ที่ทำให้การตัดสินใจหรือมุมมองของเราผิดพลาด แล้วเราจะทำอย่างไรให้เราสามารถมองเหตุการณ์นั้น ๆ ตามความเป็นจริง

ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนสามารถตัดสินใจด้วยความเป็นกลางตามเหตุตามผลที่แท้จริงได้ ทิศทางในการดำเนินชีวิตและการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตจะยอดเยี่ยมและสมเหตุสมผล

ในทุก ๆ วันเต็มไปด้วยสิ่งที่เราต้องตัดสินใจ เราจะจะรู้ได้อย่างไรว่าการตัดสินใจแต่ละครั้งเป็นการเลือกที่ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามการตัดสินใจทำอะไรสักอย่างก็ยังดีกว่าไม่ตัดสินใจ เพราะนั่นคือการตัดสินใจที่จะไม่ตัดสินใจนั่นเอง

ผมสรุปเนื้อหาในหนังสือที่น่าสนใจให้เพื่อนๆลองอ่านกันส่วนเต็มๆให้ไปซื้อหนังสือเล่มเต็มอ่านกันนะครับ

  • ในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล แม่ทัพเชียงอวี่นำกองทัพข้ามแม่น้ำแยงซีเพื่อโดจมตีกองทัพของราชวงศ์ฉิน หลังจากข้ามแม่น้ำไปได้เซียงอวี่ก็สั่งให้ทหารจมเรือทุกลำแล้วบอกกับทหารว่า “ตอนนี้พวกเจ้าต้องเลือกแล้วว่าจะสู้ให้ชนะหรือตาย” การตัดตัวเลือกที่จะถอยทัพทิ้งแปลว่าเซียงอวี่ตัดสินใจทุ่มเทให้กับเรื่องสำคัญเพียงเรื่องเดียว นั่นคือการรบให้ชนะ
  • การที่เราเปิดรับทุกตัวเลือกเข้ามา ไม่ได้ช่วยให้เราประสำความสำเร็จ สิ่งที่เราควรทำก็คือเรียนรู้ที่จะปิดประตูเสียบ้าง และการทำเช่นนั้นเราต้องสร้างกลยุทธ์ในการใช้ชีวิต โดยตั้งปณิธานว่าจะไม่เข้าไปยุ่งกับอะไรบ้างแม้จะเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นมีโอกาศซ่อนอยู่
  • พลังจูงใจที่หลับใหล คนเราจะลืมเลือนแหล่งที่มาของข้อมูลเร็วกว่าตัวเนื้อหา พูดง่ายๆว่าคนเราจะลืมไปอย่างรวดเร็วว่าข้อมูลนั้นมาจากไหน แต่จะจดจำเนื้อหาได้ยาวนานกว่า ด้วยเหตุนี้ยิ่งนานวันข้อมูลที่เราได้รับมาก็จะยิ่งดู่น่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แหล่งที่มาจะไม่น่าเชื่อถือก็ตาม
  • แล้วคุณจะป้องกันตัวเองจากปรกฎการณ์พลังจูงใจอันหลับใหลได้อย่างไร ข้อแรกคืออย่าฟังคำแนะนำในเรื่องที่คุณไม่ต้องการ ข้อที่สองคือหลีกเลี่ยงแหล่งข้อมูลที่มีโฆษณาแฝงอยู่ ข้อที่สามก็คือพยายามจดจำแหล่งที่มาของข้อมูลทุกอย่างที่พบเจอเช่นใครเป็นคนพูด และทำไมเขาถึงพูดเช่นนั้น
  • ผู้เล่นเกรด A (คนทำงานเก่งๆ) จะมองหาคนที่เก่งกว่ามาร่วมงานด้วย ในขณะผู้เล่นเกรด B จะจ้างผู้เล่นเกรด C ส่วนผู้เล่นเกรด C จะจ้างผู้เล่นเกรด D และผู้เล่นเกรด D จะจ้างผู้เล่นเกรด E ไล่ไปอย่างนี้เรื่อยๆ ภายในไม่กี่ปี่บริษัทก็จะเต็มไปด้วยผู้เล่นเกรด Z คำแนะนำก็คือจงหาคนที่เก่งกว่าคุณเข้ามาทำงานด้วย
  • สาเหตุที่เรายึดมั่นในทฤษฎีหรือแนวคิดต่าง ๆ ก็เพราะไม่อยากยอมรับ “ความไม่รู้” ของตัวเอง แต่เราไม่ได้เลือกว่าจะยึดมั่นในทฤษฎีหรือแนวคิดใดด้วยการคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เราถามตัวเองว่ามันฟังดู “ถูก” หรือ “ผิด” เท่านั้น นอกจากนี้ เรายังมองหาทฤษฎีหรือแนวคิดเพื่อยึดเหนี่ยวอยู่เสมอราวกับคนเจ้าชู้ที่ขาดคู่ควงไม่ได้เลยสักวัน
  • ทุกสิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้และความคิดของเรามักผิดพลาดอยู่เสมอ สิ่งที่ควรทำคือพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานะการณ์ที่เอื้อให้เกิดหงส์ดำด้านบวก เช่น ผันตัวไปเป็นศิลปิน นักประดิษฐ์ หรือผู้ประกอบการ และสร้างผลงานที่เติบโต
  • แต่ถ้าคุณยังต้องทำงานที่ต้องขายเวลาแลกกับเงิน เช่น พนักงานบริษัท ทันตแพทย์ หรือนักข่าวคุณคงจะไม่มีทางได้เจอกับหงส์ดำด้านบวกแต่ถ้าคุณต้องทำอาชีพนั้นต่อไปคุณควรหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ก็ให้เกิดหงส์ดำด้านลบคือให้ห่างหนี้สิน ลงทุนในเงินออมให้ระมัดระวังที่สุด
  • สมองของคนเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้คิดวิเคราะห์ให้มากที่สุด แต่ถูกออกแบบมาให้คิดหาวิธีสร้างลูกหลานให้มากที่สุด และคนที่มีโอกาสถ่ายทอดพันธุกรรมและดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตได้มากกว่าก็คือคนที่รู้สึกว่าตัวเองกล้าหาญน่าเชื่อถือ
  • การผัดวันประกันพรุ่งเป็นสิ่งที่ไรเหตุผล เพราะเรารู้ดีว่าไม่มีงานไหนจะสำเร็จได้หากไม่ลงมือทำ
  • คนเราจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความผิดพลาดอันน่าอายของตัวเองด้วยการปรับเปลี่ยนมุมมองในอดีตให้สอดคล้องกับมุมมองในปัจจุบันโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ความจริงแล้วเราควรกู่ร้องด้วยความดีใจทุกครั้งที่รู้ว่าตัวเองทำผิดตางหากเพราะการยอมรับความผิดพลาดจะช่วยให้เราไม่ทำผิดแบบเดิมซ้ำสองและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง
  • ถ้าถูกส่งเข้าสนามรบคุณก็ควรพิจารณาให้ดีว่าเป้าหมายของการสู้รบครั้งนี้คือสิ่งที่คุณต้องการหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็เดินออกมาเสีย การสู้รบตามความต้องการของคนในกลุ่มไม่ได้หมายความว่าคุณกล้าหาญ หากแต่เป้นการกระทำที่ไม่ค่อยฉลาดนัก
  • ความทุกข์ที่เกิดจากการสูญเสียอะไรสักอย่างรุนแรงกว่าความยินดีที่ได้รับสิ่งนั้นถึงสองเท่า
  • ลองมองไปรอบ ๆ ห้องของคุณดูสิครับ มีข้าวของกี่ชิ้นที่ถูกพัฒนามาจากความรู้ในหนังสือ และมีกี่ชิ้นที่มาจากการลองผิดลองถูก
  • การใช้เงินของเราจะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับว่าเราได้เงินนั้นมาอย่างไร ดังนั้น เงินจึงไม่ใช่สิ่งที่มาแต่ตัว แต่ถูกห่อหุ้มด้วยอารมณ์ความรู้สึกของเรา เรามักจะขาดความยั้งคิดในการใช้เงินที่ได้จากการถูกรางวัล เก็บได้โดยบังเอิญ หรือได้เป็นมรดก เมื่อเทียบกับการใช้เงินที่ได้จากการตรากตรำทำงานหนัก
  • การผัดวันประกันพรุ่งหมายถึงการเลื่อนสิ่งที่สำคัญที่เราไม่อยากทำออกไป เช่น การออกกำลังกาย การเปลี่ยนไปซื้อประกันสุขภาพที่คุ้มค่ากว่า การเขียนจดหมายขอบคุณหรือแม้แต่การทำตามปณิธานปีใหม่ของตัวเอง
  • พลังใจก็เหมือนกับแบตเตอรี่ และเราจะไม่สามารถรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้หากพลังใจหมด ด้วยเหตุนี้คนเราจึงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง คุณต้องหาเวลาผ่อนคลายบ้างเพื่อเติมพลังใจ นี่ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่คุณต้องรู้
  • อีกสิ่งที่จะช่วยเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่งที่จะช่วยไม่ใหคุณออกนอกลู่นอกทางคือการกำจัดสิ่งที่รบกวนสมาธิ แต่สิ่งที่ได้ผลที่สุดคือการกำหนดเส้นตายและต้องเป็นเส้นตายที่เรากำหนดเอง เส้นตายที่เรากำหนดเองจะได้ผลก็ต่อเมื่อเราแบ่งงานเป็นขั้นตอนย่อย ๆ และกำหนดเส้นตายให้ชัดเจนสำหรับแต่ละขั้นตอน
  • เรามักสับสนระหว่าความอิจฉากับความหึงหวง เราเพราะทั้งสองอย่างล้วนก็ให้เกิดพฤติกรรมที่คล้ายกัน แต่สองสิ่งนี้แตกต่างกันตรงที่ความอิจฉาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน ส่วนความหึงห่วงจะเกิดเมือมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวของ สิ่งที่น่าขันเกี่ยวกับความอิจฉาคือเราจะอิจฉาเฉพาะคนที่มีอายุ หน้าที่การงาน และรูปแบบการใช้ชีวิตใกล้เคียงกับตัวเองมาก
  • คุณสามารถหลีกเลี่ยงความอิจฉาได้โดยขั้นแรกคือคุณต้องเลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น และขั้นที่สองคือ “ระบุขอบเขตความสามารถ” ของตัวเอง แล้วพัฒนาความรู้ความสามารถในขอบเขตนั้นให้แข็งแกร่ง จงพัฒนาตัวเองให้เก่งที่สุดในเรื่องใดสักเรื่อง
  • ถ้าคุณอยากโน้มน้าวหรือกระตุ้นความรู้สึกคนอื่นละก็ อย่าลืมเพิ่มความเป็นมนุษย์ให้กับเรื่องราวของคุณด้วยการใส่ชื่อและภาพใบหน้าของผู้คนลงไปด้วยนะครับ
  • ผู้ที่รอดพ้นจากวิกฤติมาได้มักมองว่ามันทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นแค่เพียงภาพลวงตา วิกฤติก็คือวิกฤติ มันไม่ใช่กระบวนการที่ช่วยเพิ่มความเข้มแข็ง ทว่าคนเรากลับลืมไปอย่างง่ายดายว่าวิกฤติคือหายนะที่สามารถทำลายเราได้
  • เราจะพบเห็นการใช้กลยุทธ์บิดเบือนความจริงได้บ่อยที่สุดในโครงการขนาดใหญ่ทั้งหลายที่ A) ไม่มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน (เช่น รัฐบาลที่อนุมัติโครงการพ้นวาระไปแล้ว) B) มีหลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการโยนความผิดให้กัน หรือ C) ใกล้ถึงกำหนดสิ้นสุดโครงการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
  • ทำไมคนเราวางแผนได้แย่ สาเหตุข้อแรกคือเราไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริงมากเท่าที่ควร เพราะเรามัวแต่คิดว่าจะต้องทำสิ่งที่วางแผนไว้ให้สำเร็จ สาเหตุที่สองคือการมองข้ามปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบได้
  • การบิดเบือนที่เกิดจากความเชี่ยวชาญซึ่งหมายถึงการที่เรานำความเชี่ยวชาญไปใช้กับเรื่องที่อยู่นอกขอบเขตความเชี่ยวชาญของตัวเองอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
  • เรามักไม่ลืมงานที่ยังทำไม่เสร็จ มักจะติดอยู่ในความคิดและแวบเข้ามากวนใจอยู่บ่อย ๆ เหมือนเด็กที่คอยสะกิดให้เราหันไปสนใจ แต่งานที่สำเร็จลุล่วงแล้วจะถูกลบออกจากความคิดเราทันที มีการค้นพบข้อมูลที่ผิดไปจากสมมุติฐานเล็กน้อยระหว่างทำวิจัย นั่นคือบางคนสามารถทำสมองให้ปลอดโปร่งได้แม้จะมีงานยุ่งวุ่นวายเป็นสิบอย่าง
  • ภารกิจที่ไม่เสร็จสมบูรณ์จะทำให้เราวิตกกังวลถ้ายังไม่มีแผนการที่แน่นอน ซีการ์นิคเข้าใจผิดว่าเราต้องทำงานนั้น ๆ ให้เสร็จก่อนจึงจะลบมันออกจากหัวได้ แต่ความจริงแล้วแค่วางแผนให้ดีว่าจะทำอะไรต่อไปก็สามารถช่วยให้เราหายกังวลได้
  • การทำให้ความคิดปลอดโปร่งใสแจ๋วเหมือนน้ำ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องจัดการทุกเรื่องในชีวิตให้เสร็จเรียบร้อยก่อน สิ่งที่คุณต้องทำคือวางแผนอย่างละเอียดและเป็นขั้นตอนว่าจะจัดการกับสิ่งที่ยังไม่เสร็จอย่างไร ถ้าจะให้ดีต้องเขียนขั้นตอนเหล่านั้นลงในกระดาษ
  • สมองของคนเราอ่อนไหวต่อเรื่องเล่ามาก ดังนั้น ผู้นำที่ฉลาดต้องฝึกฝนตัวเองให้มีภูมิต้านทานต่อเรื่องเล่าและกำจัดมันออกจากหัวทันทีที่ได้ยิน
  • ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของบริษัท สิ่งแรกที่ควรทำคือการถามถึง “ข้อมูลที่พวกเขาไม่ได้เปิดเผย” อย่างโครงการที่ล้มเหลวหรือเป้าหมายที่พวกเขาทำไม่สำเร็จ สิ่งต่อมาที่คุณควรทำคือตรวจสอบเป้าหมายของบริษัทอีกครั้ง แล้วคุณจะแปลกใจว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ในตอนแรกหายไป เพราะมีบางคนเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายอย่างง่ายดาย
  • อย่ากลัวที่จะบอกคนอื่นว่าคุณกำลังกำจัดการรับข่าวสาร เชื่อสิครับว่าพวกเขาจะต้องทึ่งและอยากคุยกับคุณมากขึ้นอย่างแน่นอน สรุปคือคุณควรเลิกเสพข่าวแล้วหันไปอ่านบทความหรือหนังสือที่น่าเชื่อถือแทน ไม่มีอะไรจะช่วยให้คุณเข้าใจโลกใบนี้ได้ดีกว่าการอ่านหนังสือแล้วละครับ

#indybook