คุณรวิศถือเป็นหนึ่งในไอดอลของผมในด้านต่าง ๆ เป็นคนที่มีกิจกรรมเยอะแยะมากมายเช่นเป็น CEO ศรีจันทร์ และ Mission to the moon , จัด Podcast หลายรายการซึ่งผมติดตามอยู่เป็นประจำ , วิ่งมารธร ซึ่งมีตารางฝึกซ้อมแน่นมาก และอื่น ๆ อีกมากมายและดูแล้วมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ^^ แต่คุณรวิศก็สามารถทำออกมาได้ดีทุกอย่างและแบ่งเวลา ลงมือทำอย่างมีวินัยได้อย่างน่าอัศจรรย์
พอเห็นหนังสือเล่มนี้ผมก็ตัดสินใจซื้อมาในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากและใช้เวลาไม่นานก็อ่านจบ
ซึ่งผมได้สรุปเนื้อหาส่วนที่ผมชอบออกมาสั้น ๆ เพื่อให้เพื่อนลองอ่านและตัดสินใจหามาอ่านเพราะมันเป็นประโยชน์ต่อชีวิตทุกด้านแน่ ๆ ถ้านำไปปฏิบัติจริง
หนังสือเล่มนี้แบ่งการจัดการเพื่อความ Productive ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน
- การจัดการตัวเอง
- การจัดการธุรกิจ
- การจัดการทีม
โดยส่วนตัวจะชอบในส่วนของการจัดการตัวเองมากที่สุดเพราะยังไม่ได้มีธุรกิจหรือทีมให้จัดการมากมาย ต่อไปนี้ผมขอสรุปเนื้อหาที่ผมชอบไว้เพียงเล็กน้อยพอเป็นน้ำจิ้มสำหรับผู้ที่สนใจนะครับ
หยุดกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดกับคุณ
หากเราต้องการแก้ปัญหานี้เราต้องสร้าง Self-Awareness หรือการเข้าใจตัวเอง เช่น อะไรเป็นสิ่งผลักดันเรา, อะไรคือสิ่งที่เราเชื่อ, อะไรคือสิ่งที่เราไม่เชื่อ , เราต้องหาปรัชญาในการดำเนินชีวิตของเราให้เจอ
หยุดนิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง
เนื่องจากในสมองคนเราจะมีความคิดสองแบบอยู่ข้างในคือ
1. กับตันเรือ ที่จะคิดทำอะไรอย่างมีเหตุผล ทำอะไรในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองในระยะยาว คนที่มีนิสัยผลัดวันประกันพรุ่งก็มีกับตันเรืออยู่ แต่ถูกควบคุมด้วยเจ้าลิงจอมตื่นตระหนก
2. ลิง จะพอใจในสิ่งที่ฉาบฉวย ต้องการความสุขฉาบฉวยในเบื้องหน้า
*ส่วนใหญ่เราจะรู้ดีว่าตัวเองควรทำอะไรที่มีประโยชน์แต่ก็พ่ายแพ้ยอมให้ลิงควบคุมบงการกับตันเรือของเรา เช่นต้องอ่านหนังสือสอบแต่เอาเวลาไปดูซีรีย์ก่อนเป็นต้น
วิธีแก้ไขการผัดวันประกันพรุ่งมีอยู่ 3 อย่าง
เรื่องแรก เอาเวลาของความสุขชั่วคราว (สนามเด็กเล่นมืด) เป็นเวลาที่ใช้อย่างมีคุณภาพ
เรื่องสอง คนผัดวันประกันพรุ่งจะไม่สามารถใช้ศักยภาพสูงสุดของตัวเองเองได้เพราะได้ใช้เวลาในส่วนของ สำคัญ-เร่งด่วน และไม่ได้ทำสิ่งที่อยู่ในส่วน สำคัญ-ไม่เร่งด่วน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพ
เรื่องที่สาม ถ้าเราปล่อยให้ลิงบังคับกับตันเรือตลอดเวลายิ่งนานไปเรายิ่งแก้ยาก เพราะลิงจะค่อยๆมีกำลังเพิ่มขึ้น
*เจ้าลิงจะกลัวเดดไลน์ เป็นอย่างมากพอไกล้เดดไลน์ เจ้าลิงจะหนีไปแล้วเราจะเริ่มทำงานได้ครับ
ความสำคัญของ Deep Work
Deep Work คือช่วงเวลาที่เราสามารถโฟกัสงานได้โดยไม่วอกแวก
อะไรคือเคล็ดลับในการสร้าง Deep Work
- ต้องนอนให้พอ
- หวงแหนช่วงเวลา Deep Work ของคุณที่ส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาในตอนเช้า
- ออกกำลังกายสั้นๆก็ได้ แต่ขอให้มีประสิทธิภาพ
- ต้องรู้จักพักให้เป็น เวลาพักต้องพักจริง ๆ ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคมาเกี่ยวข้อง
- โทรศัพท์มือถือนั้นชวนให้เสพติดและทำให้เสียสมาธิมาก ๆ
- หูฟังตัดเสียงดี ๆ กับเพลลิสต์ดี ๆ ช่วยจัดการชีวิตได้ดีมาก
- การนั่งสมาธิช่วยได้เป็นอย่างมาก
หนึ่งในเคล็ดลับของชีวิตที่ประสบความสำเร็จคือการเก็บพลังงานทั้งหมดของเราไว้ที่จุดหนึ่งเพื่อรวบรวมพลังที่กระจัดกระจายทั้งหมดของจิตไว้ที่เดียว
เป็นไงบ้างครับสำหรับน้ำจิ้ม ผมว่าแค่นี้ถ้าเราสามารถนำไปปฏิบัติได้ก็เป็นประโยชน์อย่ามหาศาลแล้ว และหัวข้อที่มีประโยชน์ยังมีอีกเยอะคุ้มค่ากับการอ่านสำหรับผู้ที่ต้องการมีชีวิตแบบ Super Productive จริง ๆ ครับ
